พื้นฐานการวาดสีน้ำนั้นเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการวาดสีน้ำทั้งหมด ในการเรียนรู้พื้นฐานเหล่านี้ คุณจะได้รับความรู้ที่จำเป็นและทักษะที่จะช่วยคุณในการพัฒนาฝีมือสีน้ำของตัวเอง และอยู่ในเส้นทางที่สร้างงาน painting ที่คุณสามารถภูมิใจได้
คุณสมบัติของสีน้ำ
http://www.dick-blick.com/items/003/22/00322-5182-2ww-m.jpg
ความสวยงามและความเป็นเอกลักษณ์ของสีน้ำนั้นอยู่ที่คุณสมบัติของมันที่ไม่พบในเครื่องมืออื่นๆสีดูเหมือนแสงไฟที่ดูเหมือนจะสว่างออกมาจากกระดาษในขณะที่สีชนิดอื่นอื่นนั้นซ้อนตัวกันเป็นชั้นบนกระดาษ
สีน้ำ
สีน้ำ ที่มา ดินเหนียว แร่ธาตุอื่นๆ ซึ่งรวบรวมมาและยึดกันไว้ด้วยสารละลายที่ชื่อว่ากาวกระถิน สีน้ำนั้นมีความโปร่งแสงความโปร่งแสงนั่นก็คือการที่ให้แสงนั้นสามารถผ่านได้ในขณะที่กระดาษนั้นสะท้อนกลับสีจะดูสะอาด คม และดูเหมือนจะส่องแสงได้ส่วนความทึบแสงหมายถึงการที่สีนั้นบล็อกแสงและสะท้อนออกจากเม็ดสีทำให้สีนั้นดูด้านถึงแม้ว่าสีทึบจะเป็นสีที่สดใสในตัวเนื้อสีก็ตาม
ความสวยงามของสีน้ำอยู่ในความเป็นเอกลักษณ์ของคุณภาพของสีน้ำ
มีประเภท 4 ประเภทพื้นฐานของสีน้ำที่ ทุกๆคนควรต้องรู้
1.โปร่งใสและโปร่งแสง
สีน้ำแบ่งเป็นหมวดหมู่ 4 หมวดหมู่ด้วยกัน
- โปร่งแสง
- กึ่งโปร่งแสง
- กึ่งทึบ
- ทึบแสง
สีน้ำโปร่งแสง อนุญาตให้แสงผ่านและสะท้อนจากกระดาษสีขาว จึงทำให้สีดูสะท้อนแสง ดูเหมือนส่องแสงได้ ในทางตรงกันข้ามสีทึบแสงบล็อกแสงไม่ให้ส่องสว่างผ่านตัวมัน มันจึงดูหนาและดูทะมึน ส่วนกึ่งทึบแสงและกึ่งโปร่งแสงเหมือนกันก็คืออยู่ระหว่างทึบแสงและโปร่งแสง
cr:http://cdn3.craftsy.com/blog/wp-content/uploads/2016/05/opaque-and-transparent-paints.jpg
การ test ความโปร่งแสง
ในการที่จะค้นหาว่าสีของคุณนั้นตกอยู่ในสเปกตรัมโปร่งแสงหรือทึบแสงคุณสามารถทำ test ง่ายๆโดยการลากเส้นหนาสีดำด้วย permanent marker จากนั้นระบายสีลงบนเส้นนั้นสีทึบแสงจะสามารถมองเห็นบนสีดำในขณะที่สีโปร่งแสงจะหายไป
อย่างที่คุณเห็นจากภาพแคดเมียมเลมอนทางด้านซ้ายมือเป็นสีทึบแสงและควินาคริโดน โกลด์(ทางด้านขวาเป็นสีโปร่งแสง)
2.สีแบบมีคราบและไม่มีคราบ
cr:http://cdn3.craftsy.com/blog/wp-content/uploads/2016/05/Staining-NonStaining.jpg
สีแบบมีคราบได้สอดประสานเข้าสู่เส้นใยของกระดาษและทำให้มันเกิดคราบดังนั้นมันจึงยากหรือเป็นไปไม่ได้ที่จะดึงสีออกหรือใช้เทคนิค lifting สีที่ไม่มีคราบในทางตรงกันข้ามจะอยู่บนผิวของกระดาษและง่ายที่จะลงสีทับและดึงออกเมื่อแห้งเช่นการเอาพู่กันจุ่มน้ำสะอาดแล้วปาดสีออก
การ test การมีคราบ
การเทสต์การมีคราบของสีน้ำของคุณให้เพนท์แถบของสีและทำให้มันแห้งจากนั้นพยายามที่จะดูดสีออกด้วยน้ำสะอาดปริมาณเม็ดสีที่ยังเหลืออยู่จะทำให้คุณรู้เกี่ยวกับการมีคราบหรือไม่ของสี ดูในรูปตัวอย่างด้านบน
สีไม่มีคราบ
สีน้ำจะเช็ดตัวอยู่บนผิวของกระดาษเขียนสีน้ำหลังจากน้ำได้ระเหยแล้ว สีเหล่านี้เมื่อแห้งแล้วครั้งหนึ่งจะให้คุณสามารถที่จะใช้พู่กันดึงสีออกจากผิวเผยให้เห็นเนื้อสีขาวของกระดาษที่อยู่ภายใต้ได้ สีเหล่านี้ผสมได้ดีกับสีที่ไม่มีคราบอื่นๆ
สีคราบ
สีจะดูดซับเข้าสู่ชั้น 2 3 ชั้นของกระดาษเขียนสีน้ำก่อนที่น้ำมีโอกาสที่จะระเหยสีเหล่านี้เมื่อแห้งแล้วยากที่จะดึงสีออกมาและทำให้กระดาษสีขาวเหมือนเดิมและมันจะทิ้งคราบของสีเอาไว้ สีผสมกันได้อย่างดี กับสีที่มีคราบหรือสีตกตะกอนอื่นๆแต่เมื่อผสมกับสีที่ไม่ตกตะกอนมันมีแนวโน้มที่ทำให้สีเกิดคราบและกลายเป็นสีเด่นของการผสมสีน้ำนั้น
3.สีตกตะกอน
cr:http://www.wetcanvas.com/ArtSchool/Watercolors/SedimentaryPigments/sedicomp.jpg
สิ่งที่ทำให้สีน้ำเหล่านี้มีเอกลักษณ์นั่นก็คือการตกตะกอนของเม็ดสีที่สุ่มลงไปบนกระดาษเกิดเป็นผิวสัมผัสหรือ texture ในขณะที่เพ้นท์
4. ถาวรหรือไม่ถาวร
โรงงานสีน้ำ มักจะใส่คำว่า light fast หรือความทนแสงลงบนด้านข้างของหลอดด้วยตัวอักษร i หรือดีมากนั่นก็หมายถึงสีจะอยู่ติดทนกับกระดาษดีมาก และ V หมายถึงสีจะอยู่ไม่คงทนบนกระดาษไปนานเกิน 20 30 ปี
เพิ่มเติมเกี่ยวกับสีน้ำ
- สีน้ำที่คุณเห็นว่าเป็นสีขาวที่จริงไม่ใช่สีขาวมันเป็นการเว้นขาวบนกระดาษ
- สีที่แห้งนั้นมีความสว่าง 3 เท่าของสีที่เปียก
- จะแห้งอย่างรวดเร็วในที่ที่มีอากาศร้อน
- จะแห้งช้ามากในที่ที่มีอากาศชื้น
เครื่องมือสีน้ำพื้นฐาน
ข้อได้เปรียบของการที่เป็นนักเขียนสีน้ำก็คือการที่มีอุปกรณ์ที่ดีให้เลือกหลายอย่างถึงแม้ว่าเราจะไม่มีโอกาสได้ลองอุปกรณ์ทุกอย่างทุกแบรนด์แต่เราแน่ใจว่าทั้งหมดนั้นค่อนข้างดี
ในการที่จะทำให้ประสบการณ์ของการเพ้นท์สีน้ำของคุณประสบความสำเร็จเริ่มจากการที่คุณต้องเริ่มที่คุณต้องรวบรวมเครื่องมือสีน้ำเบื้องต้นถ้าสิ่งที่คุณมีไม่สามารถเปรียบเทียบกับสิ่งที่เราลิสต์ไว้ได้ไปที่ร้านศิลปะคุณอาจจะเจอสิ่งที่คล้ายคลึงกัน หรือคุณอาจจะหาจากออนไลน์ก็ได้
บางโรงงานเสนอเกรดนักเรียนให้กับผู้ที่มีงบน้อย แต่ถ้าคุณจะจริงจังกับสีน้ำคุณควรจะลงทุนในอุปกรณ์ที่ดีที่สุด
แบรนด์ที่แนะนำ
Winsor & Newton Selected List WaterColours.
Holbein Artists’ Watercolors.
Daniel Smith Extra Fine Watercolors.
ในการที่จะทำให้ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นทุนต่ำเราได้ลิสต์หลอดสีขนาด 5 ml หลอดสีเหล่านี้สามารถใช้ได้นานเมื่อมันถูกบีบลงในจานสีและแห้งแล้วสีเหล่านี้มีทั้งขนาดใหญ่ 14 ml ด้วย
1 – 5ml tube of New Gamboge
1 – 5ml tube of Permanent Rose
1 – 5ml tube of French Ultramarine Blue
1 – 5ml tube of Burnt Sienna
1 – 14ml tube of Sap Green (Holbein)
โดยส่วนตัวแล้วเราแนะนำให้ซื้อแบรนด์หลากหลายแต่ว่าคนที่เริ่มต้นสีเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
พู่กัน
พู่กันของคุณควรรักษาให้ดีโดยมีปลายแหลมในขณะที่สามารถดูดซับสีได้เป็นปริมาณมาก
Cheap Joe’s Golden Fleece Watercolor Brushes
Bette Byrd “Aqua-Sable” 100 Round Series
Fritch Scrubbers
สำหรับระบายสีน้ำ
เบอร์. 6, 8, 10 round, และ 1 inch flat Golden Fleece.
สำหรับทำให้ขอบนุ่ม
เบอร์ 3, 5, และ 7 round Bette Byrd Aqua Sable
สำหรับการดูดสีออกและไฮไลท์
เบอร์ 2 and เบอร์ 4 Fritch Scrubber
สำหรับผู้เริ่มต้น
1 – no. 5 กลม (ด้วยปลายที่แหลมน้อยกว่า)
1 – no. 6 กลม
1 – no. 8 กลม
1 – no. 10 กลม
1 – พู่กันแบน 1 นิ้ว (2.5cm)
เรามีแปรงหลายแบบและหลายขนาดจากไม่แพงไปจนถึงแพงแต่ว่าสำหรับผู้เริ่มต้นการใช้แปรงที่ไม่แพงนะก็เป็นเรื่องที่ โอเค ว่าถ้าให้ดีควรลงทุนในอุปกรณ์ที่จะสามารถใช้ได้นานๆดีกว่า
จานสี
คุณต้องการจานสีที่ดีๆที่มาพร้อมกับฝาปิด การสีที่มีหลุมใหญ่เพียงพอจะสามารถเติมเต็มสีขนาด 5 ml ได้ หลอดสีขนาด 5 ml จะพอดีกับช่องใส่สี และมีบริเวณเพียงพอให้คุณผสมส่วนของน้ำสีที่คุณต้องการผสม
กระดาษ
กระดาษนั้นมีผิวสัมผัส 3 แบบด้วยกันนั่นคืออัดร้อนหรือผิวเรียบ อัดเย็นหรือว่าผิวสัมผัสหยาบและผิวหยาบก็คือผิวที่หยาบมากหยาบที่สุด
Arches 300 lb. Cold-Pressed Watercolor Paper.
Arches 140 lb. Cold-Pressed Watercolor Paper.
กระดาษอาร์เช่ทนทานมากคุณไม่ต้องทำให้กระดาษชุ่มหรือยึดกระดาษไว้ ก่อนที่จะใช้มัน กระดาษที่มีผิวสัมผัสปานกลางจะทำให้คุณสามารถใช้สีได้สดใส มีผิวสัมผัสของกระดาษนอกจากนี้ยังทำให้สีมีเฉดออกมามากขึ้นอีกด้วย
อ้างอิง
http://www.watercolorpaintingandprojects.com/
https://www.craftsy.com/blog/2016/05/watercolor-paints/