• home
  • About
  • Course
    • Free minicourse
    • Onlinecourse
    • Private course
  • Media
    • illustpod
    • VIDEO
  • Artblog
    • ความรู้
    • freetalk
    • ข่าว
    • แรงบันดาลใจ
    • รีวิว
    • สัมภาษณ์
  • Shop
  • ติดตามอัพเดท

ILLUSTCOURSE-คอร์สเรียนวาดรูป,วาดภาพประกอบ,เรียนวาดการ์ตูน,เรียนสีน้ำและรวบรวมความรู้สำหรับผู้สนใจในการวาดภาพประกอบ,digital painting,character design

You are here: Home / การใช้ชีวิต / พี่รอดจากอาการมือตกสุดๆในชีวิตมาได้อย่างไร

พี่รอดจากอาการมือตกสุดๆในชีวิตมาได้อย่างไร

การใช้ชีวิต

11 ม.ค.

สวัสดีค่ะจะเล่าประสบการณ์ตอนมือตกให้ฟัง
เราแทบไม่อยากวาดรูปเลยค่ะ แทบจะไม่วาดรูป วันๆก็ออกไปสอนนักเรียน ฝีมือเราขึ้นสู่ topform ในปี 2007-2011 ช่วงนั้นวาดรูปหนักมาก วาดรูปทุกวัน อย่างน้อยวันละ 1-2 ภาพ และต้องเป็นรูปที่ตั้งใจวาด คนที่บอกว่าเราสำเร็จเราขึ้นสู่ระดับ top นี่คงหมายถึงช่วงนี้ ไม่ใช่ตอนนี้สำหรับสายการวาด เราฝึกทั้งพื้นฐานและทั้งลายเส้น เขียนต้นฉบับงานเขียนและสอนนักเรียน

จนเราเข้าโรงพยาบาลครั้งที่ 3 ในปี 2012 ได้ เราเริ่มหมดแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิต เบื่อทุกอย่าง เริ่มคิดว่าหาอย่างอื่นทำดีไหม เริ่มเบื่อการวาดรูป เหมือนคนเบื่ออาหารอย่างไม่มีสาเหตุ แล้วคิดมาเรื่อยๆว่าเราชอบวาดรูปจริงๆหรือชอบเพราะทำมันได้ดี เราคิดว่าเราใช้ชีวิตแบบฝืนธรรมชาติมากไป มันอาจจะสำเร็จรวดเร็วแต่ไม่ได้ยั่งยืนค่ะ

เราเริ่มท้อถอยและฝีมือดิ่งลงมาเรื่อยๆราวกราฟหุ้น จนกระทั่งมือเริ่มกลับมาในปี 2016 และค่อยๆดีขึ้นทีละนิดค่ะ จนเราคิดว่าอยากจะเอาจริงเอาจังกับการวาดรูปอีก และเป็นไปได้ว่าการสอนดิจิตัลออนไลน์จะเป็นการสอนดิจิตัลครั้งสุดท้ายของเราที่ไม่ใช่ตัวต่อตัวเพราะเราอาจจะเก็บ Cintiq เอาไว้ค่ะ นอกนั้นถ้าสอน digital จะเป็นออนไลน์หรือไม่เราอาจจะเลิกสอนดิจิตัลไปเลย ขอดูสถานการณ์ก่อน เพราะเราจะจริงจังกับงานวาดด้วยมือจริงๆแล้วทีนี้

ตอนปี 2016 วาดไว้เยอะค่ะ แต่ว่าวาดไม่ได้ดั่งใจเสียส่วนใหญ่แต่ก็วาดๆไปโดยไม่มีความรู้สึกอะไรเลยเพื่อนเราที่เป็นชาวฝรั่งเศสก็บอกว่า “ยูไม่คิดจะสร้างเนื้อเรื่องเหรอ” “งานยูไม่มีเนื้อเรื่องเลยมีแต่สกิล” จนปลายปีเริ่มมาถามเพื่อนๆที่รู้จักว่าจุดเด่นงานเราคืออะไร เพราะดูเหมือนทดลองไปเรื่อยๆจนหลงทาง และฝีมือเริ่มกลับมาเข้าที่ในปี 2017 แต่ดันขาดจินตภาพค่ะ

พอดีคุยกับพี่แป้ง Wilasinee Tansuhaj แล้วพอจะนึกออกว่าภาพเราขาดส่วนผสมอะไรไปณ.ปัจจุบัน คือ มันเป็นงานลายเส้นที่มีอารมณ์แต่ขาดจินตภาพซะส่วนใหญ่
อย่างรูปนี้ http://meisan.deviantart.com/art/The-world-torn-us-268368583

เราจินตนาการเป็นเนื้อเรื่องยาวมากๆๆๆๆเป็นนิยายได้เล่มหนึ่งเลย(แต่เขียนนิยายไม่เป็น ให้เล่าอะได้) เราจินตนาการเพื่อนเราคนหนึ่งที่เขาอ่อนโยนเหมือนผู้หญิง แต่เข้มแข็งเหมือนผู้ชายให้เป็นมังกรผู้หญิงค่ะ แล้วเราเอาลักษณะนิสัยเขา มาใส่ในรูป คนๆนี้เวลาเดินจะเดินเร็วและสง่าเหมือนสิงโตล่าเหยื่อ และเวลาพูดเขาจะมี self-esteem สูงมาก จินตภาพมันเลยเกิดในภาพสูงมากออกมาเป็นภาพนี้ ที่สำคัญคือเราต้องดึงความรู้สึกให้คล้ายกับตอนเราวาดภาพนี้ออกมาให้ได้ งานอาจจะไม่ได้กลับไปเป็นเหมือนเดิมแต่มันอาจจะเป็นแนวใหม่หรือไม่อย่างไรเดี๋ยวคงต้องดู พี่แป้งเล่าให้ฟังถึงปิกาสโซ่ว่าการสร้างงานของเขามาจากผู้หญิงที่เขาหลงใหลซะส่วนใหญ่เขาใช้ผู้หญิงเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างงาน

สำหรับคนที่มือตกแล้วมาวาดอย่างเรา สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ
กระดาษแผ่นใหญ่ กับ กระดาษเปล่าค่ะ เราแนะนำว่าถ้าคุณมือตกอยู่คุณอย่าฝืนทำงานชิ้นใหญ่ๆ ขนาดใหญ่มาก มันจะยิ่งทำให้คุณท้อ วาดกระดาษแผ่นเล็กๆเสร็จเร็วๆก่อนดีกว่าค่ะ ส่วนกระดาษเปล่า พอมือตก น่ากลัวมากค่ะ ไม่รู้จะวาดอะไรลงไปดี วาดไปก็ซ้ำๆกัน เพราะฉะนั้นควรจะเพิ่ม input หรือสิ่งที่เข้ามาก่อนค่ะ แล้วก็เพิ่มจินตภาพ อ่านนิยายบ้าง ฟังเพลง แล้วจินตนาการเรื่องออกมาบ้าง หรือไม่ก็ลองวิธีเรา เขียนแบบ improvisation คือการเขียนไปเรื่อยๆโดยไม่ต้องคำนึงถึงองค์ประกอบใดๆก่อนค่ะ

ถ้าถามว่าเสียใจไหมที่เหตุการณ์มันกลายเป็นรูปแบบนี้ ไม่เสียใจค่ะ
เราได้อะไรหลายๆอย่างจากเหตุการณ์นี้ และทำให้เรากลับมาเป็นมือใหม่ในการพัฒนา เราจะได้รู้ว่าจริงๆที่นักเรียนมือตก วาดไม่เก่งขึ้น มันเป็นเพราะอะไร และสามารถแก้ไขได้ค่ะ จำไว้ค่ะ ความสำเร็จในชีวิตคนเรามันคือความสุข และมันไม่ได้เกิดขึ้นเพียงหนเดียวในชีวิตคุณ อย่าไปยึดติดกับมันค่ะ

อะไรที่ทำให้ฟื้นคืนการมือตกได้
-สมุดเสก็ตซ์เล่มเล็กที่เมื่อกางออกมาแล้วพอๆกับ A4 แต่เล็กกว่าค่ะ การวาดบนกระดาษเล็กๆจะทำให้ท้อถอยน้อยกว่ามากและงานเสร็จเร็ว เราไม่ได้สนับสนุนให้ใช้ของแพงมากในทีแรกแต่เราใช้ Moleskine เพราะว่าจะได้เก็บเป็น archive ดูพัฒนาการ เป็น format เดียวกันค่ะ
-การกลับไปสู่การวาดแบบกระดาษและมือค่ะ เนื่องจากคอมพิวเตอร์นั้นบางทีในบางความรู้สึกวาดแล้วสัมผัสยังไงก็สู้กระดาษจริงๆไม่ได้เลย และการวาดออกมาแล้วได้อย่างใจสำคัญมาก
-ดินสอใช้ 0.5 2b ค่ะอย่าเพิ่งใช้ 0.3 จนกว่าลายเส้นจะเสถียร
-ลองกลับไปวาดสไตล์เก่าที่เราเคยวาดได้ค่ะ สัมผัสความรู้สึกเก่าๆ
-อย่าฝืนวาดรูปค่ะ อย่าฝืนวาดในสิ่งที่ไม่อยากวาดและสไตล์ที่ไม่อยากในเบื้องต้น คุณต้องสนุกกับการวาดภาพให้ได้เหมือนเดิมก่อนแล้วค่อยๆพัฒนาจากตรงนั้น

เตือนตัวเอง
1.วาดเสก็ตซ์อะไรได้แต่อย่าวาดอะไรไปอย่างงั้นๆโดยที่ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกอะไรในภาพเลย
2.อย่าวาดเพราะต้องวาด ต้องจำกัดตัวเองว่าวาดให้ได้เท่านั้นเท่านี้ วาดเฉพาะที่อยากเท่านั้น แต่มี passion กับมันจริงๆ
3.input เยอะๆ นำมาซึ่ง output เยอะๆ หนัง,หนังสือ,การ์ตูน,อนิเมอะไรก็ว่าไป อย่าวาดโดยไม่มี input เพราะมันเหมือนคนไม่ได้กินอะไรเลยแล้วถ่ายออกมามันก็ไม่มีอะไรเลย
4.จินตนาการเยอะๆก่อนวาดภาพ
5.ฟังเพลงก่อนวาดภาพเพื่อสร้างอารมณ์

10 วิธีป้องกันอาการมือตก
1.รักษาจิตใจตัวเองให้ดี
2.เห็นคุณค่าในตัวเอง
3.อย่าเปรียบเทียบงานตัวเองกับคนอื่น
4.ทดลองทำอะไรใหม่ๆบ้าง
5.คิดว่าตัวเองมีคุณค่าเสมอ
6.อย่าคิดว่างานตัวเองห่วย
7.พยายามอย่าบังคับตัวเองให้ต้องวาดรูปตลอดเวลา
8.วาดในเวลาที่อารมณ์และจิตใจเราพร้อมและอยากวาด
9.รักษาสุขภาพให้ดี
10.รักตัวเอง รักคนรอบข้าง
ช่วยได้แน่นอนคะ

Related

« 5วิธีทำงานวาดภาพประกอบฟรีแลนซ์อย่างมีประสิทธิภาพ
บันทึกการฝึก 30 วันเมื่อฉันมือตก:ตอนที่ 1 »

Blog Stats

  • 3,243,869 hits
Loading...

เพิ่มเพื่อน สายตรงถึงพี่มุ่ย

เพิ่มเพื่อน

Meisan mui หรือพี่มุ่ยเป็นนักวาดภาพประกอบ
ทำงานภาพประกอบ/ออกแบบคาแร็คเตอร์ มาทั้งหมดราวๆ 7 ปี
มีผลงานลงสื่อทั้งไทยและต่างประเทศ และเป็นผู้เขียนหนังสือพ็อคเกตบุ็ค
"ลาเจ้านายไปตามฝัน" Read More…

e-book ในวันที่คุณไส้ไม่แห้ง

หมวดหมู่

  • Featured
  • Freelance
  • freetalk
  • Health
  • Lifestyle
  • podcast
  • Relationship
  • SOLObiz
  • SOLOBook
  • SOLOear
  • SOLOLIFE
  • writing
  • การใช้ชีวิต
  • การ์ตูน
  • ของดี
  • ข่าว
  • ความรู้
  • ตอบคำถาม
  • ทำมาหากิน
  • นิยาย
  • บันทึกการฝึก
  • ผลงานครู
  • ผลงานน้องๆที่เรียน
  • รีวิว
  • สัมภาษณ์
  • อื่นๆ
  • ฮาวทู
  • เกม
  • แนะนำสินค้า
  • แรงบันดาลใจ

คลังเก็บ

  • มกราคม 2019
  • ธันวาคม 2018
  • พฤศจิกายน 2018
  • ตุลาคม 2018
  • กันยายน 2018
  • สิงหาคม 2018
  • กรกฎาคม 2018
  • มิถุนายน 2018
  • พฤษภาคม 2018
  • เมษายน 2018
  • มีนาคม 2018
  • กุมภาพันธ์ 2018
  • มกราคม 2018
  • ธันวาคม 2017
  • พฤศจิกายน 2017
  • ตุลาคม 2017
  • กันยายน 2017
  • สิงหาคม 2017
  • กรกฎาคม 2017
  • มิถุนายน 2017
  • พฤษภาคม 2017
  • เมษายน 2017
  • มีนาคม 2017
  • กุมภาพันธ์ 2017
  • มกราคม 2017
  • ธันวาคม 2016
  • พฤศจิกายน 2016
  • ตุลาคม 2016
  • กันยายน 2016
  • สิงหาคม 2016
  • กรกฎาคม 2016
  • มิถุนายน 2016
  • พฤษภาคม 2016
  • เมษายน 2016
  • มีนาคม 2016
  • กุมภาพันธ์ 2016
  • มกราคม 2016
  • ธันวาคม 2015
  • พฤศจิกายน 2015
  • ตุลาคม 2015
  • กันยายน 2015
  • สิงหาคม 2015
  • กรกฎาคม 2015
  • มิถุนายน 2015
  • พฤษภาคม 2015
  • เมษายน 2015
  • มีนาคม 2015
  • กุมภาพันธ์ 2015
  • มกราคม 2015
  • ธันวาคม 2014
  • พฤศจิกายน 2014
  • ตุลาคม 2014
  • กันยายน 2014
  • สิงหาคม 2014
  • กรกฎาคม 2014
  • มิถุนายน 2014
  • พฤษภาคม 2014
  • เมษายน 2014
  • มีนาคม 2014
  • กุมภาพันธ์ 2014
  • มกราคม 2014
  • ธันวาคม 2013
  • พฤศจิกายน 2013
  • ตุลาคม 2013
  • กันยายน 2013
  • สิงหาคม 2013
  • กรกฎาคม 2013
  • มิถุนายน 2013
  • พฤษภาคม 2013
  • เมษายน 2013
  • มีนาคม 2013
  • กุมภาพันธ์ 2013
  • มกราคม 2013
  • ธันวาคม 2012
  • พฤศจิกายน 2012
  • ตุลาคม 2012
  • กันยายน 2012
  • สิงหาคม 2012
  • กรกฎาคม 2012
  • มิถุนายน 2012
  • พฤษภาคม 2012
  • เมษายน 2012
  • มีนาคม 2012
  • กุมภาพันธ์ 2012
  • มกราคม 2012
  • ธันวาคม 2011
  • พฤศจิกายน 2011
  • ตุลาคม 2011
  • กันยายน 2011
  • สิงหาคม 2011
  • กรกฎาคม 2011
  • มิถุนายน 2011
  • พฤษภาคม 2011
  • เมษายน 2011
  • มีนาคม 2011
  • กุมภาพันธ์ 2011
  • มกราคม 2011
  • ธันวาคม 2010
  • พฤศจิกายน 2010
  • ตุลาคม 2010
  • กันยายน 2010
  • สิงหาคม 2010
  • กรกฎาคม 2010
  • กันยายน 2008
  • สิงหาคม 2008

[instagram-feed num=5 cols=5] 

Copyright © 2019 · Refined theme by Restored 316